พื้นที่
สวนผักสวัสดี เป็นสวนผักที่มีผักสลัดสดใหม่และดีที่สุดในพื้นที่จังหวัดตรัง
ต้องการชมหน้าเพจของเรากดปุ้มด้านล่างได้เลย !
ภายในสวน มีผักหลายชนิดให้เลือกหลายอย่างและเว็บเรายังให้ความรู้ของสรรพคุณของผักแต่ละชนิดในสวนเราอีกด้วยผักมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างช่วยให้ร่างกายทำงานหนักน้อยลงอีกด้วยนั่นเอง
สรรพคุณของผักเป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน นับเป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกผักและพืชที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจากประหยัดพื้นที่ และไม่ปนเปื้อนกับสารเคมีต่างๆ ในดิน ทำให้ได้พืชผักที่สะอาดเป็นอาหาร ปัจจุบันนี้ในเทคนิคการปลูกพืชแบบไร้ดินหลายแบบด้วยกัน นักวิจัยด้านเมตาบอลิซึมของพืชได้ค้นพบว่าพืชจะดูดซึมสารอาหารมาเป็นไอออนในน้ำ ซึ่งมีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ในสภาพตามธรรมชาตินั้น
ซึ่งเป็นการปลูกผักลงในธาตุอาหารในรูปของสารละลายทำให้พืชได้รับธาตุอาหารโดยตรงทำให้พืชมีระยะเวลาในการในการเจริญเติบโตสั้นลงเมื่อเทียบกับการปลูกพืชลงดินและบางครั้งอาจมีคุณภาพดีกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วผักสลัดก็ยังสามารถปลูกลงดินเช่นเดียวกับการปลูกพืชทั่วไปด้วยเหมือนกัน
ผักสลัดอุดมไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อร่างการมากมาย ซึ่งให้ไขมันต่ำ มีน้ำและเส้นใยอาหารจำนวนมากช่วยให้ระบบขับถ่ายดี ซึ่งเมื่อระบบขับถ่ายดีก็จะส่งผลให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลดลงเพราะกากที่ร่างกายขับถ่ายออกมานั้นมีส่วนที่เป็นสารพิษอยู่ด้วยนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วผักสลัดยังมีวิตามินและเกลือแร่อีกมากมาย เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินดี
เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน นับเป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกผักและพืชที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจากประหยัดพื้นที่ และไม่ปนเปื้อนกับสารเคมีต่างๆ ในดิน ทำให้ได้พืชผักที่สะอาดเป็นอาหาร ปัจจุบันนี้ในเทคนิคการปลูกพืชแบบไร้ดินหลายแบบด้วยกัน
นักวิจัยด้านเมตาบอลิซึมของพืชได้ค้นพบว่าพืชจะดูดซึมสารอาหารมาเป็นไอออนในน้ำ ซึ่งมีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ในสภาพตามธรรมชาตินั้น ดินจะทำหน้าที่เป็นแหล่งสารอาหาร แต่ดินเองนั้นไม่จำเป็นต่อการเติบโตของพืช เมื่อสารอาหารในดินละลายไปกับน้ำ รากของพืชก็จะสามารถดูดซึมสารอาหารนั้นได้ เมื่อใส่สารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชไว้ในแหล่งน้ำที่สร้างขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ดินเพื่อเป็นแหล่งอาหารของพืชอีกต่อไป พืชส่วนใหญ่จะเติบโตด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ได้ แต่เติบโตได้ดีมากน้อยแตกต่างกัน การปลูกพืชไร้ดินนี้ทำได้ง่าย สะดวก และประหยัดพื้นที่ แต่ต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็น นั่นคือสารอาหารสำหรับพืชที่ละลายอยู่ในน้ำแล้ว
ไฮโดรโปนิกส์นั้นมีประโยชน์หลักๆ 2 ประการด้วยกัน ประการแรกคือช่วยให้มีสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมได้มากขึ้นสำหรับการเติบโตของพืช แทนที่จะเป็นการใช้ดินอย่างเดิม ทำให้กำจัดตัวแปรที่ไม่ทราบออกไปจากการทดลองได้จำนวนมาก ประการที่สองก็คือ พืชหลายชนิดจะให้ผลผลิตได้มากในเวลาที่น้อยกว่าเดิม และบางครั้งก็มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิมด้วย ซึ่งในสภาพแวดล้อมและสภาพการเศรษฐศาสตร์หนึ่งๆ การปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์จะให้ผลกำไรแก่เกษตรกรได้มากขึ้น และด้วยการปลูกที่ไม่ใช้ดิน จึงทำให้พืชไม่มีโรคที่เกิดในดิน ไม่มีวัชพืช และไม่ต้องจัดการดิน และยังสามารถปลูกพืชใกล้กันมากได้ ด้วเหตุนี้พืชจึงให้ผลผลิตในปริมาณที่มากกว่าเดิม ขณะที่ใช้พื้นที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีการใช้น้ำน้อยมาก เพราะมีการใช้ภาชนะหรือระบบวนน้ำแบบปิด เพื่อหมุนเวียนน้ำ เมื่อเทียบกับการเกษตรแบบเดิมแล้ว นับว่าใช้น้ำเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้น
พื้นที่
โรงปลูกพืช
ผักปลอดสารพิษ
สดใหม่แน่นอน
กรีนโอ๊ค
Green Oak
ประโยชน์และสรรพคุณของ กรีนโอ๊ค
1.บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ
2.ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
3.ป้องกันโรคปากนกกระจอก
4.ป้องกันโรคหวัด
5.บำรุงสายตา ก
6.มีกากใยอาหารช่วยในการย่อยง่าย
7.ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
8.แหล่งวิตามินเค
คุณค่าทางโภชนาการของ ผักกรีนโอ๊ค 100 กรัม ให้พลังงาน 55 กิโลแคลอรี ใยอาหาร 2.1 กรัม วิตามินเอ 116 I.U. วิตามินซี 3.7 มิลลิกรัม วิตามินเค 102.3 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.057 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.062 มิลลิกรัม วิตามินบี5 0.15 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.082 มิลลิกรัม วิตามินบี9 73 มิลลิกรัม แคลเซียม 35 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 33 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 238 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 1.24 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 13 มิลลิกรัม สังกะสี 0.2 มิลลิกรัม
เรดโอ๊ค
Red Oak
ประโยชน์และสรรพคุณของ เรดโอ๊ค
1.บำรุงสายตา
2.ช่วยให้เลือดแข็งตัว
3.บำรุงเลือด
มีกากใยอาหารมาก มีเส้นใยอาหารอยู่มากจึงช่วยย่อยอาหารได้ดี ช่วยกระตุ้นลำไส้ทำให้กากอาหารนุ่มลง ช่วยล้างลำไส้ แก้อาการท้องผูก และยังช่วยป้องกะันโรคริดสีดวงทวาร
ป้องกันโรคปากนกกระจอก เรดโอ๊คมีธาตุเหล็กจึงช่วยป้องกันปากนกกระจอก
บำรุงการตั้งครรภ์ เรดโอ๊คเป็นผักที่มีโฟเลตสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
คุณค่าทางโภชนาการของ เรดโอ๊ค 85 กรัม พลังงาน 13.6 กิโลแคลอรี เส้นใยอาหาร 0.8 กรัม วิตามินเอ 6,369 IU วิตามินซี 3.1 มิลลิกรัม วิตามินเค 119 ไมโครกรัม โฟเลต 30.6 ไมโครกรัม แคลเซียม 28.1 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 1.0 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 23.8 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 10.2 มิลลิกรัม ซีลีเนียม 1.3 ไมโครกรัม
ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด
Butterhead
ประโยชน์และสรรพคุณของ ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด
1.ช่วยบำรุงร่างกาย
2.ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
3.ช่วยบำรุงสายตา
4.ช่วยบำรุงเส้นผม
5.ช่วยบำรุงประสาท
6.ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ
7.ช่วยบำรุงผิวพรรณ
8.ช่วยรักษาปากนกกระจอก
9.มีสารต้านอนุมูลอิสระ
10.ช่วยบรรเทาอาการหวัด
11.ช่วยสร้างเม็ดเลือด บำรุงเลือด
12.ช่วยระบบขับถ่าย แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ
13.ช่วยลดความดันโลหิตสูง
14.ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
15.ช่วยขับปัสสาวะ
16.ช่วยขับพยาธิ
คุณค่าทางโภชนาการของพลังงาน 13 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 2.23 กรัม ใยอาหาร 1.1 กรัม ไขมัน 22 กรัม โปรตีน 1.35 กรัม น้ำ 95.63 กรัม วิตามินเอ 166 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.057 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.062 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.357 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.082 มิลลิกรัม วิตามินซี 3.7 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.18 มิลลิกรัม วิตามินเค 102.3 ไมโครกรัม โฟเลต 73 ไมโครกรัม แคลเซียม 35 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 1.24 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 13 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 33 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 238 มิลลิกรัม โซเดียม 5 มิลลิกรัม สังกะสี (ซิงค์) 0.20 มิลลิกรัม
คอส
Cos หรือ Romaine
ประโยชน์และสรรพคุณของ คอส
1.วิตามินและธาตุเหล็กสูง
2.ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย
3.แก้ไอ แก้ไข้ ขับเสมหะ
4.บำรุงสายตา
5.ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
6.ลดความดันโลหิตสูง
7.เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
8.ช่วยให้เลือดแข็งตัว
9.ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก
10.ช่วยสร้างเม็ดเลือด
11.ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันโรคหวัด
คุณค่าทางโภชนาการของ พลังงาน 17 กิโลแคลอรี ไฟเบอร์ 2.1 กรัม วิตามินบี1 0.072 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.067 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.313 มิลลิกรัม วิตามินบี5 0.142มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.074 มิลลิกรัม วิตามินเอ 436 ไมโครกรัม วิตามินซี 4.0 มิลลิกรัม วิตามินเค 102.5 ไมโครกรัม แคลเซียม 33 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.97 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 14 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 247 มิลลิกรัม สังกะสี 0.23 มิลลิกรัม เบต้า-แคโรทีน 5,226 ไมโครกรัม ลูทีน-ซีแซนทีน 2,312 ไมโครกรัม
ผักกาดแก้ว
Iceberg or Crisphead
ประโยชน์และสรรพคุณของ ผักกาดแก้ว
1.ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
2.ผักกาดแก้วเป็นยากล่อมประสาท หรือยานอนหลับ
3.แก้อาการเมาเรือ
4.สามารถแก้ไอหรืออาการคันคอ
5.มีฮีโมโกลบิน ที่ช่วยต้านมะเร็ง และรักษาโรคโลหิตจางโดยเฉพาะในหญิงมีครรภ์
6.ช่วยแก้อาการท้องผูก
7.เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน เพราะมีคาร์โบไฮเดรตเพียง 3% หรือน้อยกว่า
ให้พลังงาน 27 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 3.8 กรัม (g) แคลเซียม 16 มิลลิกรัม (mg) โปรตีน 2 กรัม (g) ไขมัน 0.4 กรัม (g) เหล็ก 4.9 mg ฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม (mg) น้ำ 92.7 กรัม (g) ไนอะซิน 0.6 มิลลิกรัม (mg) ไทอะมิน 0.06 มิลลิกรัม (mg) ไรโบฟลาวิน 0.18 มิลลิกรัม (mg) วิตามินเอรวม 393 วิตามินซี 24 มิลลิกรัม (mg) วิตามินอี 1.82 มิลลิกรัม (mg) เบต้าแคโรทีน 2356 ไมโครกรัม (µg)
ผักกาดหอม
Green Coral
ประโยชน์และสรรพคุณของ ผักกาดหอม
1.กระตุ้นระบบขับถ่าย
2.ป้องกันมะเร็ง
3.ช่วยให้หลับดีขึ้นมีคุณสมบัติช่วยให้สมองผ่อนคลาย จิตใจสงบลง และช่วยให้รู้สึกง่วง
4.บำรุงสายตา
5.ลดน้ำหนัก
6.บรรเทาอาการเบาหวาน
7.ลดอาการอักเสบจากหลายโรค
คอเลสเตอรอล 0 mg โซเดียม 28 mg โพแทสเซียม 194 mg คาร์โบไฮเดรต 2.9 g เส้นใยอาหาร 1.3 g น้ำตาล 0.8 g โปรตีน 1.4 g วิตามินซี 9.2 mg ธาตุเหล็ก 4.9 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.1 mg แมกนีเซียม 13 mg ฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม
ผักฟิลเลย์ ไอซ์เบิร์ก (Frillice Iceberg)
เมล่อน
Melon
ประโยชน์และสรรพคุณของ เมล่อน
1.ลดความดันโลหิตสูง
2.บำรุงกระดูก
3.เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
4.เสริมคอลลาเจนให้ผิว
5.เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
6.ระบบย่อยอาหาร
7.บำรุงดวงตา
เมล่อนเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ โดยข้อมูลโภชนาการของเมล่อน 1 ถ้วย ปริมาณ 177 กรัม มีดังนี้
พลังงาน 64 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 16 กรัม ไฟเบอร์ 1.4 กรัม โปรตีน 1 กรัม ไขมัน 0 กรัม วิตามินซี 5 คิดเป็น 3% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน วิตามินบี 6 คิดเป็น 8% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน โฟเลต คิดเป็น 8% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน วิตามินเค คิดเป็น 6% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน โพแทสเซียม คิดเป็น 12% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน แมกนีเซียม คิดเป็น 4% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
มะเขือเทศ
Tomato
ประโยชน์และสรรพคุณของ มะเขือเทศ
1.มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารมากมายหลายชนิด และที่โดดเด่นที่สุด ก็คือวิตามินซีและวิตามินเอที่พบได้มากในมะเขือเทศ แถมยังเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
2.มะเขือเทศมีสารจำพวกไลโคปีน ที่จะช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดความเสี่ยงโรคร้ายต่างๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อการเสื่อมของร่างกายได้ดี
3.มะเขือเทศมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง แก้แผลร้อนในช่องปาก เป็นยาช่วยดับร้อนถอนพิษ และสามารถบรรเทาอาการของโรคหัวใจได้อย่างดีเยี่ยม
4.ผลของมะเขือเทศเป็นยาระบายอ่อนๆ แก้กระหายน้ำและเบื่ออาหาร
5.ต้นมะเขือเทศมีสารสำคัญ คือโทมาทีน ( tomatine ) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นต้นเหตุของโรคในพืชและคน
6.รากและใบแก่ต้มกินแก้ปวดฟัน ใบบดเป็นผงละเอียด เป็นยาเย็น ใช้ทาผิวถูกแดดเผา
7.ใบชงกับน้ำร้อนใช้เป็นยาพ่นกำจัดหนอนที่มากินผักได้
พลังงาน 18 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม น้ำตาล 2.6 กรัม เส้นใย 1.2 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม โปรตีน 0.9 กรัม น้ำ 94.5 กรัม วิตามินเอ 42 ไมโครกรัม 5% เบตาแคโรทีน 449 ไมโครกรัม 4% ลูทีนและซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม วิตามินบี 1 0.037 มิลลิกรัม 3% วิตามินบี 3 0.594 มิลลิกรัม 4% วิตามินบี 6 0.08 มิลลิกรัม 6% วิตามินซี 14 มิลลิกรัม 17% วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม 4% วิตามินเค 7.9 ไมโครกรัม 8% ธาตุแมกนีเซียม 11 มิลลิกรัม 3% ธาตุแมงกานีส 0.114 มิลลิกรัม 5% ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3% ธาตุโพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม 5% ไลโคปีน 2,573 ไมโครกรัม